การโฆษณาผ่าน Ads Manager: ช่องทางและวิธีการที่นักการตลาดควรรู้

ในยุคดิจิทัลที่ผู้คนใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์มากกว่าที่เคย การโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ หนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมคือ Ads Manager ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของ Meta (Facebook) ที่สามารถจัดการโฆษณาได้ทั้งบน Facebook, Instagram, Messenger และ Audience Network

Ads Manager คืออะไร?

Ads Manager คือระบบจัดการโฆษณาของ Meta ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง แก้ไข และตรวจสอบประสิทธิภาพของโฆษณาได้ในที่เดียว มีฟีเจอร์ที่ครบถ้วนตั้งแต่การเลือกวัตถุประสงค์ของแคมเปญ ไปจนถึงการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และการวัดผลลัพธ์

ช่องทางในการลงโฆษณาผ่าน Ads Manager

1. Google Ads
   แอดเวิดส์ เป็นบริการโฆษณาออนไลน์จากกูเกิล คลิ๊ก Google Ads Thailand โดยแอดเวิดส์เป็นผลิตภัณฑ์สร้างรายได้หลักของบริษัท โดยทำงานคู่กับแอดเซนส์ แอดเวิดส์ทำงานในระบบ Pay per click กล่าวคือผู้ลงโฆษณาจะเสียเงินต่อเมื่อมีคนกดป้ายโฆษณาเข้าไปในเว็บไซต์เท่านั้น โดยแอดเวิดส์เองจะมี 2 ระบบหลักคือ การแสดงผลโฆษณาเป็นตัวอักษรล้วน และการแสดงผลเป็นภาพ
2. Line Ads Manager
   Line Ads คือการซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์ม LINE ในรูปแบบการประมูล (Bidding) ทําให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเข้าถึงผู้ใช้งาน LINE ในประเทศไทย  โดยสามารถกําหนดวัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนปรับการทํางาน และงบประมาณ ของแคมเปญโฆษณาให้เหมาะสม โดยมี 2 ช่องทาง คือบัญชีที่ซื้อด้วยตนเอง และบัญชีที่ซื้อผ่านเอเจนซี่
3. Facebook Ads
   ตัวจัดการโฆษณา Meta คลิ๊กสร้างแคมเปญโฆษณา เป็นเครื่องมือการสร้างโฆษณาแบบครบวงจรที่คุณสามารถนำมาใช้สร้างและเผยแพร่โฆษณาบน Facebook, Messenger, Instagram และ Meta Audience Network ได้
4. Tiktok Ads Manager
   TikTok Ads Manager ช่วยให้คุณสร้างและจัดการแคมเปญโฆษณาบน TikTok ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มจากการสร้างบัญชี TikTok for Business แล้วเข้าสู่ คลิ๊ก TikTok Ads Manager เพื่อสร้างแคมเปญ กำหนดวัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย งบประมาณ และเริ่มสร้างโฆษณาได้เลย 

วิธีการโฆษณาด้วย Ads Manager

1. ตั้งเป้าหมาย (Objective) Meta มีเป้าหมายหลัก 3 ประเภทให้เลือก:

• การรับรู้ (Awareness) – สร้างการรับรู้แบรนด์
• การพิจารณา (Consideration) – กระตุ้นให้ผู้ชมมีปฏิสัมพันธ์ เช่น คลิกเว็บไซต์ ดูวิดีโอ หรือส่งข้อความ
• การแปลงผล (Conversion) – กระตุ้นให้เกิดการซื้อ สมัคร หรือการกระทำที่มีคุณค่า

2. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Audience) คุณสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายโดยละเอียด เช่น:

• เพศ อายุ
• สถานที่
• ความสนใจ
• พฤติกรรมการใช้งาน
• Lookalike Audiences (กลุ่มที่มีพฤติกรรมคล้ายลูกค้าปัจจุบัน)

3. ตั้งงบประมาณและเวลา (Budget & Schedule) เลือกได้ว่าจะลงงบรายวัน หรือรายรวม (lifetime budget) และสามารถกำหนดระยะเวลาแคมเปญได้อย่างยืดหยุ่น

4. สร้างโฆษณา (Ad Creation) เลือกรูปแบบโฆษณา เช่น:

• รูปภาพเดียว
• วิดีโอ
• สไลด์โชว์
• คอลเลกชัน
• แบบฟอร์มลีด (Lead Forms)

5. ตรวจสอบผลลัพธ์ (Performance & Optimization) สามารถดูรายงานประสิทธิภาพ เช่น:

• จำนวนคลิก
• ค่าใช้จ่ายต่อคลิก (CPC)
• อัตราการแปลง (Conversion rate)
• ROI (ผลตอบแทนจากการลงทุน)

สรุป

การใช้ Ads Manager เป็นช่องทางการโฆษณาที่ทรงพลัง โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำและวัดผลได้อย่างชัดเจน แม้จะมีการแข่งขันสูง แต่ด้วยการวางกลยุทธ์ที่เหมาะสม การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ และการปรับปรุงโฆษณาอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถใช้ Ads Manager เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งได้ในระยะยาว